วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พัฒนาสมองลูกในท้องด้วยดนตรี

ดนตรีเพื่อพัฒนาสมอง ก็คือการใช้ดนตรีเป็นสื่อในการทำให้สมองพัฒนาและทำงานอย่างเต็มศักยภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะสมองเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งชีวิต เมื่อพัฒนาสมองอย่าง ถูกต้องเหมาะสมด้วยความรู้และเข้าใจทั้งทางวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และสุนทรียศาสตร์ ก็ย่อมจะทำให้ชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น มีชีวิตที่มีคุณภาพและมีชีวิตที่ดีขึ้น และเนื่องจากชีวิตของมนุษย์ประกอบด้วยกายและใจ ซึ่งส่วนประกอบทั้งสองต้องอยู่ในสภาพสมดุล นั่นคือสุขภาพกายต้องสมบูรณ์แข็งแรง สุขภาพใจต้องแจ่มใสสดชื่นแข็งแรง ชีวิตจึงจะมีความสุขและดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
แต่ด้วยสภาวะแวดล้อมทางสังคม ทัศนคติที่มีต่อการเลี้ยงดูลูกในแนวเน้นให้ลูกเป็นคนเก่งโดยเฉพาะทางวิชาการ ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นเด็กดีและมีความสุขค่ะ คิดแต่เพียงว่าวิชาการเท่านั้นจึงจะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ การมองโลกในแง่ลบ การแข่งขัน การแย่งชิง และความเห็นแก่ตัวเอง เพื่อให้อยู่ในโลกที่ซับซ้อนในยุคของการมุ่งเน้นแต่ความเจริญทางวัตถุ ความสำเร็จในชีวิตวัดได้จากจำนวนปริมาณและการตีค่าของวัตถุ ส่งผลให้เกิดมลพิษต่อสภาวะแวดล้อมรอบตัวในสังคม เกิดมลพิษต่อชีวิตมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีแต่ความเครียด และการแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อความอยู่รอด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินชีวิตตั้งแต่แรกเกิดเป็นไปในทางก่อ เกิดปัญหา ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และคุณภาพชีวิตของมนุษย์
แต่นับเป็นเรื่องดีค่ะที่มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องสมองกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เข้าใจความลึกลับซับซ้อน ตลอดจนความสำคัญของสมอง ซึ่งทุกคนมีในขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกัน แต่จำนวนของเซลล์สมองอาจ ไม่เท่ากัน ทำให้ได้เข้าใจในลักษณะของสรีระภายใน และการทำหน้าที่ควบคุมทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปได้อย่างสมดุล อันนำไปสู่การมองเห็นหนทางในการแก้ปัญหาของโลกและสังคมโดยรวม

จากการศึกษาทำให้เรารู้ว่า เซลล์สมองของมนุษย์เริ่มพัฒนาและเพิ่มจำนวน ตั้งแต่แรกปฏิสนธิจนกระทั่งก่อนคลอด ซึ่งมีจำนวนของเซลล์สมองหรือ Neuron ประมาณร้อยล้านล้านเซลล์ทีเดียวค่ะ โดยเซลล์สมองจะมี 3 ส่วนคือ dendrite ซึ่งเหมือนนิ้วมือยื่นออกไปเพื่อรับกระแสประสาท axon ส่วนของเซลล์ที่ทำหน้าที่ส่งกระแสประสาทออกไปติดต่อเซลล์อื่นและ nucleus ของเซลล์สมองซลล์สมองของมนุษย์มีจำนวนใกล้เคียงกัน ไม่มีการเกิดขึ้นใหม่ ดังนั้นจำนวนของเซลล์สมองจึงมีแต่จะลดจำนวนลง ถ้าเกิดการตายหรือการสูญเสียของเซลล์สมองขึ้น

ส่วนการพัฒนาคุณภาพของสมองนั้น ที่ดีที่สุดคือการเพิ่มจำนวนกิ่งก้านสาขาของ dendrite ให้มาก เนื่องจาก dendrite ทำให้เกิด Brain Connections ซึ่งการเชื่อมติดต่อกันของเซลล์สมองยิ่งมีจำนวนมากเท่าไร คุณภาพของสมองจะดีขึ้นเท่านั้นค่ะ โดยเซลล์สมอง 1 ตัว สามารถเกิด Brain Connections ได้ถึง 25,000 จุด มนุษย์สามารถสร้าง dendrite ได้ตลอดชีวิต หากมีปัจจัยสำคัญต่างๆ ครบถ้วนสำหรับการพัฒนาสมอง ดังนั้นความรู้ใหม่ส่วนนี้จึงเป็นแนวทางที่สามารถจะพัฒนาคุณภาพทางสมองได้ โดยวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมในทุกช่วงของชีวิตได้

งานวิจัยเกี่ยวกับ Aecellerate Learning ค้นพบว่า
ดนตรีที่มีคุณภาพทั้งเสียงร้อง ทำนอง จังหวะ และความถี่ของเสียงจะช่วยกระตุ้นให้สมองของมนุษย์พัฒนาและทำงานได้ดี เนื่องจากทำให้เกิดการเพิ่มจำนวนของ dendrite ซึ่งเป็นส่วนของ Neuron ในการรับกระแสประสาท ยิ่งจำนวน dendrite มีมากเท่าใด การเกิด Brain Connections คือการเชื่อมโยงของเซลล์สมองต่างๆเป็นเครื่อข่าย (network) ก็จะก่อให้เกิดการทำงานที่สมบูรณ์ แข็งแรง และทรงพลานุภาพ

ดนตรีที่ เลือกสรรแล้วว่ามีคุณภาพทั้งเสียงร้อง ทำนอง จังหวะ และความถี่ของเสียงซึ่งมีผลงานวิจัยและเสนอผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องใน มหาวิทยาลัย John Hopkins โดยมี Kenedy Kreger center ซึ่งเป็นศูนย์ทดลองวิจัยต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องสมองและการเรียนรู้ที่เกี่ยวกับดนตรี ซึ่งมีข้อสรุปของผลงานวิจัยโดยผู้เขียนนำเสนอตามลำดับช่วงชีวิตของมนุษย์ เริ่มตั้งแต่ทารกในครรภ์ (Prenatal) วัยทารก (Neonatal) จนถึงวัยเตาะแตะ (0-3) จากช่วงอายุ 4-8 ปี, ช่วงวัยรุ่น ผู้ใหญ่ และวัยชรา และการนำดนตรีเป็น สื่อในการจัดการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์สูงสุดของการ เรียนรู้สำหรับเด็กปกติ และเด็กที่มีความต้องการเป็นพิเศษเป็นตอนๆ ไปตามลำดับ


 คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=4721
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น