วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปวดชากล้ามเนื้อระหว่างตั้งครรภ์

Q:ดิฉันกำลังตั้ง ครรภ์ลูกคนที่สอง ขณะนี้ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนเศษๆ และดิฉันมีอายุมากคือ 38 ย่าง 39 ปี ลูกคนแรกอายุเกือบ 5 ขวบ เต็ม ดิฉันคิดว่ามีลูกคนที่สองเมื่ออายุมากอย่างนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะในวัยทำงานที่ผ่านมาไม่ค่อยเจ็บป่วย กินอาหารได้เป็นปกติ ออกกำลังกายบ้าง สุขภาพจิตดี การตั้งครรภ์ลูกคนที่สองดิฉันแพ้ ตรงกันข้ามกับลูกคนแรกที่ไม่แพ้ ดื่มนมเยอะมาก คล่องแคล่วว่องไว

ลูก คนที่สองแพ้มาก มาหายแพ้ก็ตอน 4 เดือน ต้องกินแคลเซียมเสริม และเมื่อท้องได้ 5 เดือน เริ่มปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่อง ซึ่งมาจากการยืนมากเดินมาก ดิฉันเคยมีประวัติเส้นเลือดขอด เคยรักษาแต่ไม่เป็นรุนแรง ดิฉันต้องนวดประคบ แช่น้ำอุ่นจัด ต่อมาดิฉันรู้สึกชาขาสลับข้างและมือข้าง บริเวณเอ็นร้อยหวายข้อเท้าบวม มีการแตกของเส้นเลือดให้เห็นเป็นจ้ำๆ บางครั้งแขนขาข้างที่ชาจะมีอาการเจ็บเนื้อเมื่อโดนชนหรือกระแทกแรงๆ ดิฉันปรึกษาหมอเพราะเดินลำบากขึ้น และพยายามทำทุกวิถีทางให้ทุเลา ยกขาสูงทุกคืน ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ก็ไม่ดีขึ้น

ปรึกษาหมอที่ฝากครรภ์ หมอบอกว่าลูกดิ้น ทั้งเส้นเลือดที่ต่อขา-ขึ้นมาหัวใจการไหลเวียนกลับของเลือดไม่ดี ดิฉันปรึกษาหมอด้านอายุรกรรมที่เชี่ยวชาญทางด้านการชาของกล้ามเนื้อ ผิวหนัง หมอ 3 ท่านดูแล้วมีการเจาะเลือดตรวจไต ตับ ภูมิแพ้ ไขข้อกระดูก ฯลฯ ตรวจหมดทุกอย่างปกติ

ดิฉันทรมานมาก ขาข้างขวาชาบริเวณเท้าที่รับน้ำหนัก ขณะเดียวกันก็เจ็บเวลาเดิน ต้องนวด พันผ้า มือด้านซ้าย นิ้วก้อยชาและเจ็บเนื้อ ดิฉันเหมือนหุ่นยนต์ เดินลำบากทั้งที่น้ำหนักขึ้นมาปกติ เดือนละ 1 กิโลกรัม

ดิฉันนอนไม่ หลับในแต่ละคืนเพราะเจ็บจี๊ดที่เท้าขวา เหมือนเหล็กทิ่มแทง บางครั้งก็ปวดสลับกันไป ดิฉันพยายามทำทุกวิธีทางที่จะสร้างบรรยากาศในการนอน บางครั้งนอนได้สั้นแล้วก็ตื่น เมื่อนอนไม่หลับต้องตื่นเช้าทำงาน ไปส่งลูกชายก็จะรู้สึกอ่อนเพลีย กลายเป็นคนคิดมากว่าอ่อนแอ ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่ หลายครั้งหลายหนที่โมโหตัวเอง ตื่นกลางคืนแล้วไม่หลับ นั่งร้องไห้บ่อย สภาพจิตใจค่อนข้างทรุดโทรม บางครั้งก็กลายเป็นโมโหฉุนเฉียวที่ทำอะไรแล้วไม่ได้ดังใจเหมือนเดิม

ดิฉัน ยังโชคดีที่สามีเข้าใจและคอยช่วยเหลือปลอบประโลม น้องๆ ที่ทำงานก็หมั่นให้กำลังใจและคอยปลอบว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะคลอดแล้ว คนท้องคนอื่นลำบากกว่านี้ก็มีถมไป คุณหมอที่ฝากครรภ์ก็อธิบายถึงสาเหตุของการเป็นมาของโรคและพยายามอธิบายให้ ดิฉันเข้าใจ แต่ดิฉันก็ยังอยากรู้ว่ามีสิ่งใดที่จะช่วยดิฉันบรรเทาผ่อนหนักเป็นเบาอีก บ้างไหมคะ




คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=16661
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น