วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ฟันของแม่ท้อง

มารู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ฟันผุระหว่างตั้งครรภ์ จะได้ป้องกันไว้ก่อน ....ดีมั๊ยคะ!!
1.  ระหว่างตั้งครรภ์จะ มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ชื่อว่าเอสโตรเจน(Estrogen) และโปรเจสเตอโรน(Progesterone) ซึ่งจะทำให้เหงือกบวมอักเสบง่าย ทำให้เกิดการสะสมของคราบหินปูนและติดเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุได้ง่ายขึ้น ยิ่งช่วงครรภ์เดือนที่ 2 คุณแม่จะเริ่มสังเกตได้จากคราบอาหาร คราบหินปูนที่จะสะสมบนซี่ฟันได้ชัดเจน ปฏิกิริยาของการอักเสบจะทำให้เหงือกที่อยู่รอบๆ ซี่ฟันบวมแดง ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอาการปวดแต่เหงือกจะบอบบางและเลือดออกง่ายโดยเฉพาะเวลาแปรงฟันเมื่อคุณแม่เห็นว่าเหงือกบวมแดงจึงไม่กล้าแปรงฟันและไม่กล้าใช้ไหมขัดฟันเพราะกลัวว่าเลือดจะออก เพราะอย่างนี้จึงทำให้คราบอาหารและคราบหินปูนสะสมบริเวณซี่ฟันมากขึ้น

2. การ ที่ลูกตัวโตขึ้นมดลูกที่ขยายขึ้นจะทำให้ความจุของกระเพาะอาหารน้อยลง คุณแม่จะอิ่มเร็วและหิวบ่อยเป็นเหตุให้ต้องรับประทานอาหารขนมคบเคี้ยวที่มี รสหวานบ่อยขึ้น สองอย่างนี้ค่ะที่เป็นสาเหตุของฟันผุที่เพิ่มขึ้น

แม่ท้องไหนเสี่ยง "ฟันผุ" จำนวนคุณแม่ท้องที่ฟันผุจะพบประมาณ 65-70%บางครั้งคุณแม่อาจจะรู้สึกว่าฟันโยกโดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่3(28-40สัปดาห์)แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ ฟันโยกจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อคุณแม่คลอดน้องแล้วนั่นเป็นเพราะว่าปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดลง เหงือกจะยุบบวม และยึดเหนี่ยวซี่ฟันได้แข็งแรงขึ้นค่ะ

สำหรับกรณีที่มีอาการเหงือกอักเสบ มีการวิจัยต่างๆ พบว่าถ้าแม่เหงือกอักเสบมากอาจทำให้เกิดการคลอดก่อน กำหนดค่ะ และเป็นสาเหตุให้ลูกมีน้ำหนักตัวน้อย เนื่องจากแบคทีเรียที่มีปริมาณมากอาจเข้าสู่กระแสเลือดไปที่มดลูก และกระตุ้นให้มีการหลั่งสารเคมี Prostaglandin ซึ่งกระตุ้นให้มีการแข็งตัวของมดลูกก่อนกำหนดได้ แต่หากคุณแม่เหงือกบวมเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีการอักเสบหรือติดเชื้อ ก็จะไม่ทำให้คลอดก่อนกำหนดค่ะ ถ้าคุณแม่มีอาการปวดเหงือกปวดฟัน ซึ่งเป็นอาการของการอักเสบติดเชื้อควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อรักษาทันที ถ้าคุณแม่มีอาการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดควรรีบพบสูติแพทย์ทันที

ท้องก็ทำ "ฟัน" ได้ ถ้าพบว่ามีฟันผุ ทันตแพทย์จะนัดคุณแม่เพื่ออุดฟันเมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 2 (14-28 สัปดาห์) สำหรับในไตรมาสที่ 3 (28 สัปดาห์ - คลอด) ควรพบทันตแพทย์อีกครั้งเพื่อตรวจสุขภาพอนามัยของช่องปาก เหตุที่คุณแม่อายุครรภ์มาก ไม่ควรทำฟันเพราะขณะทำฟันการนอนบนเก้าอี้ตรวจฟันเป็นเวลานานอาจทำให้อึดอัด หน้ามืด เวียนศีรษะ เป็นลมได้ค่ะ แต่หากจำเป็นต้องรักษาโรคเหงือก ฟันผุ หรือรากฟัน ทันตแพทย์จะให้ยาแก้ปวดพาราเซตามอล หรือถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ควรใช้ยาในกลุ่ม Amoxycillin, หรือPennicillin ควรหลีกเลี่ยงยาTetracyclin เพราะจะทำให้ฟันของลูกมีสีผิดปกติได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะให้เลื่อนไปทำหลังคลอดแทน

ดูแลฟันเรื่องง่ายๆ
1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันหลังทานอาหารทุกมื้อค่ะโดยเฉพาะบริเวณรอยต่อของเหงือกและฟัน ควรดูแลเป็นพิเศษ
2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน
3. ถ้าคุณแม่อยู่ในช่วงแพ้ท้อง ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้งหลังอาเจียน เพื่อลดสภาพความเป็นกรดในช่องปาก
4. การแปรงฟันทำให้คุณแม่คลื่นไส้ ควรแปรงฟันด้วยน้ำเปล่าและใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรป้องกันการเกิดหินปูน
5. รับประทานอาหารที่มีวิตามินซี และ บี 12 ลดอาหารหรือขนมที่มีรสหวานจัด 







คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=12239
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น