วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ลูกในท้องดิ้น นอนหลับและสะอึก..อย่างไรนะ

นอกจากนี้ปัญหาที่ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มาพบสูติแพทย์ก่อนกำหนดนัดบ่อยที่สุดก็คือ รู้สึกว่าทารกในครรภ์ไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง

การ ตรวจหรือการทดสอบที่จะบอกได้ว่าทารกในครรภ์นั้นแข็งแรงดีหรือไม่ อาจทำได้หลายวิธี เช่น การนับจำนวนครั้งที่ทารกดิ้นในช่วงเวลาหนึ่งๆ การบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์หรือการตรวจอัลตราซาวน์ดเพื่อดู สภาพทารกในครรภ์ ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบเหล่านี้จะสามารถทำนายสุขภาพทารกในครรภ์ได้

8 สัปดาห์ ก็ดิ้นแล้วนะ

จาก การที่ผมได้มีโอกาสทำงานด้านรักษาผู้มีบุตรยาก ได้เห็นการปฏิสนธิของไข่กับตัวอสุจิ การฝังตัวของตัวอ่อนและการเจริญเติบโตของตัวอ่อนจนกลายเป็นทารกในครรภ์เมื่อ พ้นอายุครรภ์ 7 สัปดาห์ไปแล้วนั้น ด้วยความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีเครื่องอัลตราซาวน์ดที่ตรวจเห็นสภาพของ ตัวอ่อนและทารกในครรภ์ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่อายุครรภ์เพียง 5 สัปดาห์ ทำให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้ว ตัวอ่อนในครรภ์เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่เรียกว่ากระดิกตัวตั้งแต่อายุครรภ์ เพียง 8 สัปดาห์กว่าๆ ซึ่งมีขนาดความยาวเพียง 16-18 มิลลิเมตรเท่านั้น

หลัง จากนั้นทารกในครรภ์ก็ยังคงเคลื่อนไหวแต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีวัตถุ ประสงค์หรือไร้ทิศทาง การเคลื่อนไหวของทารกจะพัฒนาไปพร้อมกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของระบบ กล้ามเนื้อของร่างกายทารก จนกระทั่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มีวัตถุประสงค์ หรือบังคับทิศทางได้ เมื่อระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาทส่วนกลางพัฒนาไปถึงระดับหนึ่งแล้ว

18 สัปดาห์ สัมผัสได้ว่าลูกดิ้น

รู้ มั้ยครับว่าทำไมแม่ตั้งครรภ์จึงไม่รู้สึกว่าทารกในครรภ์ดิ้นหรือเคลื่อนไหว จนกระทั่งมีอายุครรภ์ประมาณ 18 สัปดาห์ครึ่งในครรภ์แรก และประมาณ 17 สัปดาห์ในครรภ์หลัง ก่อนอื่นเราต้องจินตนาการว่าทารกในครรภ์อยู่ภายในมดลูกที่มีนำคร่ำบรรจุอยู่ ทารกแขวนลอยอยู่ในน้ำคร่ำ การที่แม่จะรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของทารกได้นั้น อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของทารก เช่น ศีรษะ ก้น แขนหรือขา จะต้องมากระทบกับผนังด้านในของมดลูกที่มีเส้นประสาทรับรู้ความรู้สึก และการกระทบจะต้องแรงพอที่จะกระตุ้นประสาทสัมผัสดังกล่าว

ซึ่งเมื่อ ถึงอายุครรภ์ดังกล่าวข้างต้น น้ำหนักของทารกที่เคลื่อนไหวมากระทบผนังด้านในของมดลูกจะทำให้เกิดแรงมากพอ ที่จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกรับรู้ แต่เมื่อตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง การที่มีประสบการณ์ในครรภ์แรกทำให้คุณแม่สามารถรับรู้ว่าทารกดิ้นเป็นครั้ง แรกได้เร็วขึ้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงหนึ่งสัปดาห์ครึ่ง

ดิ้นหรือสะอึกกันแน่????
การ ดิ้นของทารกในครรภ์ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา เนื่องจากทารกในครรภ์มีช่วงเวลาที่ตื่นและหลับ แต่ยังเป็นระยะสั้นๆ เช่น ทุกครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมง เมื่อทารกตื่นก็มีการเคลื่อนไหว เมื่อหลับก็นิ่งไป วงจรการหลับและตื่นในครรภ์จะมีระยะสั้นๆ และยังคงต่อเนื่องมาถึงระยะหลังคลอด หลังจากนั้นทารกจะค่อยๆปรับตัวเข้ากับโลกภายนอกคือ ระยะเวลาการนอนและตื่นจะยืดยาวทอดไปจนกระทั่งกลายเป็นตื่นกลางวัน นอนกลางคืนในที่สุด

ลักษณะการดิ้นของทารกในครรภ์ เมื่อทารกในครรภ์อยู่ในท่าที่แตกต่างกัน จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับรู้ความรู้สึกว่าทารกดิ้นแตกต่างกันไปด้วยเช่น กัน เช่น การที่ทารกอยู้ในท่าศีรษะกับท่าก้นจะทำให้เกิดความรู้สึกกับตัวคุณแม่แตก ต่างกัน การที่ทารกนอนเอาหลังมาชิดหน้าท้องของแม่หรือเอามือและเท้ามาชิดก็จะให้ความ รู้สึกที่แตกต่างกันเช่นกัน

ปริมาณน้ำคร่ำที่อยู่ภายในมดลูกก็มีผล ทำให้การรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของทารกแตกต่างกันออกไปได้ เช่น การที่มีปริมาณน้ำคร่ำมากจะทำให้มดลูกตึงและการรับรู้ของตัวแม่เองไม่ดี เมื่อเทียบกับการที่มีปริมาณน้ำคร่ำน้อย เป็นต้น

นอกจากนั้นทารกใน ครรภ์อาจจะมีการเคลื่อนไหวที่เป็นจังหวะ คล้ายจังหวะกระตุกที่ทำให้แม่รู้สึกว่าเป็นการสะอึกได้ แต่จากการตรวจอัลตราซาวน์ดพบว่า การเคลื่อนไหวแบบที่ว่านี้ไม่ใช่การสะอึก แต่เป็นการเคลื่อนไหวแบบกระตุกมากกว่า

ลูกไม่ดิ้น...สัญญาณอันตราย

เรา ได้ทราบการเคลื่อนไหวแบบต่างๆแล้ว หากว่าทารกในครรภ์เคลื่อนไหวน้อยหรือไม่เคลื่อนไหว แสดงถึงอะไรบ้าง การที่ทารกในครรภ์ไม่เคลื่อนไหว เป็นสัญญาณอันตรายบที่บ่งบอกว่าทารกจะมีปัญหาสุขภาพหรือตกอยู่ในอันตราย เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลางหรือขาดออกซิเจนหรือรกทำงานผิดปกติ ไม่สามารถส่งถ่ายอาหารหรือแลกเปลี่ยนกาซที่จำเป็นต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้นหากแม่ตั้งครรภ์รู้สึกว่าทารกในครรภ์ดิ้นน้อยลงจากที่เคยดิ้นดี โดยเฉพาะเมื่อตั้งใจส้งเกตการดิ้นเป็นเวลานาน 30 นาที และพบว่าทารกดิ้นน้อยกว่า 10 ครั้งแล้วล่ะก็ ควรที่จะปรึกษาสูติแพทย์ในทันทีครับ 


คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=17331
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น