วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ฝากครรภ์ผ่านมือถือ

เมื่อมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าคุณแม่ส่วนมากก็มักจะมีความหวาดหวังคล้ายๆ กันทั้งนั้นแหละครับ ที่หวาดก็คือกลัวลูกจะพิการ ไม่แข็งแรง กลัวตัวเองจะได้รับอันตรายจากการคลอด ส่วนที่หวังก็คืออยากจะให้ลูกสมบูรณ์แข็งแรง เฉลียวฉลาด และตัวเองปลอดภัยจากการคลอด เป็นต้น

เวลาที่ไม่ลงตัว
ทั้ง ความคาดหวังและความวิตกกังวลต่างๆ ดังกล่าว ทำให้คุณแม่ส่วนมากพยายามแสวงหาทั้งโรงพยาบาลที่จะไปคลอดและคุณหมอที่จะดูแล กันอย่างมาก บางคนเปลี่ยนหมอเปลี่ยนโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเลยก็มีกว่าจะเจอหมอหรือโรง พยาบาลที่ถูกใจหรือไว้ใจ บางคนจวนจะคลอดอยู่แล้วยังเปลี่ยนหมอเลยก็มี

ผม คิดว่าคงจะไม่เล่าเกี่ยวกับวิธีเลือกหมอหรือโรงพยาบาลอีกแล้วครับ เพราะเล่าไปแล้วใน Modern Mom ฉบับก่อนๆ ถ้าใครยังไม่ได้อ่านก็ลองกลับไปหาอ่านดูนะครับ สำหรับในครั้งนี้ผมคิดว่าจะคุยกับคุณแม่ในประเด็นอื่นที่เกี่ยวข้องกับการ ดูแลคุณแม่เวลาตั้งครรภ์

สิ่งที่ผมอยากจะเรียนให้ทราบก็คือ ในการตั้งครรภ์แต่ละครั้งจะใช้เวลายาวนานถึงประมาณ 10 เดือน แม้ว่าคุณแม่จะไปฝากครรภ์กับคุณหมอที่ไว้วางใจหรือสนิทสนมเพียงใดก็ตาม ส่วนมากคุณแม่ก็มักจะมีโอกาสพบกับคุณหมอประมาณ 10-15 ครั้งเท่านั้น และในแต่ละครั้งที่มาตรวจ คุณแม่อาจมีโอกาสพูดคุยกับคุณหมอไม่มากมายอะไร แค่ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นคุณหมอที่มีชื่อเสียง มีคนมาฝากครรภ์ด้วยเยอะ โอกาสคุยจะยิ่งเหลือน้อยลงไปอีก บางคนมีโอกาสคุยแค่ 5-10 นาทีหรืออาจจะไม่มีโอกาสได้คุยเลยก็ได้ คุณแม่ที่มีปัญหาค้างคาใจค่อนข้างมากก็เลยหมดโอกาสถามคุณหมอ หมอบางคนก็อยากจะอธิบายให้คุณแม่ฟังยาวๆ ก็ไม่มีเวลาเช่นกัน เพราะยังมีคุณแม่คนอื่นรอตรวจอีกเยอะ ดังนั้นการตั้งครรภ์แต่ละครั้งที่ว่านานถึง 10 เดือน นับดูให้ดีคุณแม่อาจมีเวลาที่พบกับหมอรวมๆ กันแล้วอาจแค่สัปดาห์เดียวก็เป็นได้

ทางออก ?
เมื่อ หาคำตอบจากคุณหมอไม่ได้เต็มที่ คุณแม่หลายคนก็เลยไปหาคำตอบจากแหล่งอื่น ไม่ว่าจะเป็นจากเพื่อน ญาติ หรือจากสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือ วิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต รวมทั้งจากอีกสารพัดสื่อ เท่าที่ผมสังเกตดู พบว่าคำตอบหรือคำแนะนำสำหรับปัญหาต่างๆ ที่ได้จากตัวบุคคล เช่น จากเพื่อนหรือญาติ มักจะเป็นคำตอบหรือคำแนะนำที่ได้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เล่าที่เคย คลอดมาก่อน หรือบางคนฟังคนอื่นแล้วเอามาเล่าให้ฟังอีกที ซึ่งข้อมูลจำนวนไม่น้อยผมว่าค่อนข้างมั่ว ยิ่งไปเจอบางคนที่ชอบเล่าอะไรให้มันดูตื่นเต้น หรือเล่าแล้วคุณแม่ประสาทรับประทานได้ยิ่งดี ถ้าเจอแบบนี้หลีกๆไว้บ้างก็จะดีนะครับ

ส่วนข้อมูลจากสื่อต่างๆ มีไม่น้อยเหมือนกันที่เชื่อไม่ได้ หรือขัดแย้งกันจนไม่รู้จะเชื่อสื่อไหนดี ซึ่งก็ ก่อให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน


ประโยชน์จาก SMS
ปัจจุบัน ความก้าวหน้าด้านการสื่อสารได้ก้าวไปไกลจนคนเราสามารถติดต่อพูดคุยกันได้ อย่างง่ายดายไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคงคุยกันไปมองเห็นหน้าตากันไปด้วยอย่างแน่นอน ผมเลยคิดว่าทำไมเราไม่นำเอาความก้าวหน้าด้านการสื่อสารมาผสานกับการฝากครรภ์ แบบเดิมๆ ที่ทำกันมานานแล้วซะ ผมว่าน่าจะทำให้การฝากครรภ์ของคุณแม่เป็นไปด้วยดีและทำให้คุณแม่อบอุ่นใจ เหมือนมีหมออยู่ข้างกายโดยไม่ต้องเป็นภรรยาหมอก็ได้นะครับ

ผมและทีม คณะวิจัยที่ศิริราชได้ลองใช้มือถือเป็นอุปกรณ์ช่วยในการดูแลคุณแม่ที่ฝาก ครรภ์กับผมมาระยะหนึ่งแล้ว โดยผมจะส่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์เป็นข้อมูลสั้นๆทาง SMS ให้คุณแม่ทราบเป็นระยะๆ ข้อมูลที่ให้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ และความผิดปกติหรือปัญหาที่คุณแม่ต้องรีบมาพบคุณหมอ

สำหรับความรู้ เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ จะแบ่งออกเป็นแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์ โดยในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์ก็จะทยอยส่งข้อความที่ควรรู้ของแต่ละช่วงของ การตั้งครรภ์ไปให้ เช่น ในไตรมาสแรกจะส่งข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้ท้อง อาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ในช่วงดังกล่าว เช่น ปัสสาวะบ่อย ปวดหลัง ปวดเอว ในไตรมาสที่สองก็จะให้ความรู้เกี่ยวกับการเดินทาง การทำงาน หรือเพศสัมพันธ์ เป็นต้น 



คุณแม่สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=12240
ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น