วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

น้ำในหูไม่เท่ากัน...ยิ่งต้องระวังยามท้อง

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้ค่ะ

โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Miniere’s disease) เป็นสภาวะความผิดปกติของท่อบรรจุน้ำที่อยู่ในหูชั้นใน โดยมีการขยายตัวจนทำให้ปริมาณน้ำในหูเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคนี้ค่ะ
ผู้ที่เป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน จะมีอาการเวียนศีรษะเหมือนบ้านหมุน รู้สึกหนักๆ ในหู หูอื้อ ได้ยินเสียงน้อยลง จะเริ่มจากเป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่งก่อน และท้ายที่สุด บางรายอาจมีอาการลุกลามจนเป็นทั้ง 2 ข้างได้

แม่ท้อง...อาการคูณสอง
พบว่าแม่
ท้องที่มีปัญหานี้ ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษค่ะ เพราะ...
มีอาการมากกว่าปกติ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนของเพศหญิงซึ่งจะมีระดับสูงขึ้นยาม
ท้อง จะไปกระตุ้นให้อาการกำเริบมากขึ้น ทั้งเวียนหัว หูอื้อและได้ยินเสียงน้อยลง
เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหาย แม่
ท้องมักมีอาการหูอื้อแบบขึ้นๆ ลงๆ ไม่เป็นตลอดเวลา เมื่อมีอาการแล้วพักสักครู่จนหาย ก็อาจมีอาการขึ้นมาอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้
ร่างกายอ่อนเพลีย แม้จะไม่เป็นอุปสรรคในการคลอด แต่ขณะ
ท้องอาการเหล่านี้จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย กินไม่ได้และอาจทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็น ถ้าเป็นระดับรุนแรงก็อาจต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
เสี่ยงอุบัติเหตุ เนื่องจากอาการเวียนหัวเหมือนบ้านหมุนอาจเกิดกับแม่
ท้องได้ตลอดเวลา จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เช่น ล้ม เลือดออก จนทำให้คลอดก่อนกำหนด ทำให้เป็นอันตรายได้ทั้งแม่และลูกในท้อง
แนวทางรักษา ทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นจึงยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด ทำได้เพียงการบรรเทาอาการและลดปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เท่านั้น ดังนี้...

การใช้ยา ยาที่ใช้รักษาในปัจจุบันมีหลายกลุ่มด้วยกัน แต่ที่แม่ท้องสามารถกินได้มีตัวเดียวเท่านั้นคือวิตามินบี ซึ่งจะมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในช่องหูชั้นในและลดภาวะเกิดน้ำได้ อย่างไรก็ตามแม้การกินยาจะช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ก็อาจกลับมาเป็นใหม่ได้อีกทุกเวลาและการใช้ยาต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้นค่ะ



ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ผู้ที่เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องเพื่ออยู่กับโรคนี้ไปได้อย่างดีที่ สุด นั่นคือการเคลื่อนไหวช้าๆ ลดปัจจัยกระตุ้นต่างๆ พักผ่อนให้เพียงพอค่ะ

การผ่าตัด สำหรับคนท้องไม่สามารถผ่าตัดได้ ต้องรอให้คลอดก่อนจึงจะทำได้ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่จะพยายามรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อย่างเต็มที่ก่อน เพราะการผ่าตัดจะมีความเสี่ยงสูงที่จะกระทบกระเทือนแก้วหูจนอาจทำให้หูดับได้
ผู้ตัดสินใจผ่าตัดมักมีอาการหูไม่ได้ยินเสียงและเวียนหัวมาก จนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ จึงยอมเสี่ยงที่จะมีอาการหูดับเพื่อแลกกับการผ่าตัดค่ะ

การฟื้นฟูหลังผ่าตัดหรือการบรรเทาด้วยวิธีอื่นๆ แล้ว การฟื้นฟูด้วยการออกกำลังกายในท่าหมุนศีรษะ เอียงคอสลับซ้ายขวา และก้มเงย จะเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อคอและหัวไหล่ รวมทั้งยังมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำ ซึ่งวิธีการต่างๆ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ค่ะ

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=18869
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น