DHA และ AA คืออะไร
DHA และ AA เป็นไขมันชนิดหนึ่งมีอยู่ในสารอาหารหลายอย่างที่เรากินกัน แต่แหล่งสำคัญและเป็นแหล่ง DHA ที่ดีที่สุดคือน้ำนมแม่ ดังนั้นคุรแม่ตั้งครรภ์ควรรู้
แหล่ง DHA และ AA ไขมันทั้งสองตัวนี้ได้จากการกินอาหารพวกไข่แดง ปลา สาหร่าย ฯลฯ และยังสามารถสังเคราะห์และสร้างได้จากไขมันพวก Linoleic acid และ Linolenic acid แต่ DHA และ AA ที่ร่างกายสร้างจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ไม่ดีเท่าตัวที่เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นในทารกแรกเกิด การได้กินนมแม่จึงมีความแตกต่างจากเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ ซึ่งพบว่าเด็กที่กินนมแม่มีปริมาณ DHA และ AA หรือไขมันที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมองและสายตาดังนั้นถ้าหากลูกกินนมแม่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องกิน DHA และ AA เพิ่ม เพราะทุกอย่างถูกปรับให้เพียงพอกับความต้องการของลูกอยู่แล้ว แต่ควรดูแลเรื่องอาหารที่มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินดี และวิตามินบี 12 (ในนมแม่มังสวิรัติ)
8 เรื่องน่ารู้เพื่อน้ำนมคุณภาพ1. ภาวะสุขภาพหรือการกินอาหารของคุณแม่ เกือบจะไม่กระทบต่อคุณภาพและปริมาณน้ำนมเลย ถ้าคุณแม่ไม่ได้อยู่ในภาวะขาดอาหาร
2. แม่ที่น้ำหนักขึ้นน้อยหรือเกือบจะไม่ขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ มักมีปริมาณน้ำนมน้อยและปริมาณไขมันในน้ำนมน้อยกว่าแม่ที่มีน้ำหนักขึ้นตามปกติ คือประมาณ 10 กก. ตลอดการตั้งครรภ์ และในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ส่วนใหญ่จะมีการสะสมไขมันประมาณ 2-4 กิโลกรัม
3. ควรหลีกเลี่ยงการเสริมด้วยวิตามินเอ เพราะอาจมีภาวะที่มากเกินไปได้
4. ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
5. ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ หมายถึงการดื่มน้ำที่ตอบสนองการกระหายน้ำ ไม่จำเป็นต้องดื่มมากเป็นพิเศษ
6. การควบคุมน้ำหนักหลังคลอดควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่ควรงดอาหาร แต่ควรปรับเปลี่ยนลักษณะอาหาร ลดน้ำตาล ไขมัน ออกกำลังกาย ไม่ควรปล่อยให้น้ำหนักลดลง เกินกว่าสัปดาห์ละ 0.5 กิโลกรัม
7. การกินโดยเป็นนิสัย ไม่ใช่กินเพื่ออิ่มท้อง มักทำให้กินจุบกินจิบ และทำให้มีน้ำหนักสะสมมากขึ้นและยิ่งเป็นปัญหาเมื่อลูกหย่านม
8. ควรลดการกินอาหารประเภทไขมัน พวกที่เป็นมันแข็ง เช่น มันหมู และกินอาหารที่มีกากใยมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่น้ำนมแม่มีให้แก่ลูกน้อยนอกเหนือจากสารอาหาร คือมีน้ำย่อยไขมัน น้ำย่อยน้ำตาล ที่ช่วยทำให้ลูกย่อยสลายไขมันและน้ำตาลได้ดี มีกากซึ่งเป็นประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อของระบบทางเดินอาหารและการขับถ่าย มีภูมิคุ้มกันและเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถให้ลูกนำไปใช้ปกป้องและสร้างเสริมตัวเอง
คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=11515
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.momypedia.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น