วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

โรคดักแด้ ภัยร้ายที่ไม่มีทางป้องกัน

โรคดักแด้คืออะไร
 
โรคดักแด้ หรือ Epidermolysis Bullosa (EB) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมในโครโมโซมเพศ โดย เฉพาะโครโมโซม X (เพศหญิง XX – เพศชาย XY) ดังนั้นจึงมีการพบว่าทารกที่เกิดมาเป็นโรคนี้จึงมักจะเป็นเพศหญิงเกือบทั้ง หมด จริงๆ แล้วยีนที่มีความผิดปกตินี้อาจจะมาจากพ่อแม่ที่มีสุขภาพร่างกายปกติ แต่มียีนผิดปกติแฝงอยู่ เมื่อยีนนี้ถ่ายทอดมาสู่ลูกจึงเกิดการผ่าเหล่าและแสดงอาการออกมาทำให้เกิด โรคดังกล่าว

อาการของโรคดักแด้มีสาเหตุจากการกลาย พันธุ์จากยีนเคราติน ปกติเซลล์ผิวหนังจะแบ่งตัวและเคลื่อนตัวขึ้นมาเปลี่ยนเป็นหนังกำพร้า และหนังกำพร้าจะถูกย่อยให้ละเอียดลงและหลุดออกไปเป็นหนังขี้ไคล แต่ในเด็กดักแด้ชั้นหนังกำพร้าจะไม่ยอมย่อย และจะแข็งติดอยู่จึงทำให้หนาขึ้นเรื่อยๆ ผิวหนังแห้ง บอบบางอย่างรุนแรงและมีแผลพุพองแผล ในบางรายก็อาจจะมีเลือดซึมออกมาตามสะเก็ดผิวหนัง ปากจะไม่สามารถปิดสนิทได้ ตาปูดโปนกว่าปกติหรือบางรายก็อาจจะตาบอด รวมไปถึงมีแผลในปากและหลอดอาหาร ทำให้ผู้ป่วยกินได้เพียงน้ำและอาหารอ่อนๆ เท่านั้น

ด้วยผิว ที่บอบบางนี่เองที่ทำให้เด็กที่เป็นโรคนี้ทำกิจกรรมหนักๆ หรือเคลื่อนไหวตัวอย่างเร็วไม่ได้เพราะจะมีอาการเจ็บปวด มีเลือดซึมตามสะเก็ด หรือผิวหนังฉีกขาด รวมไปถึงไม่ควรออกแดด ไม่ควรอยู่ที่ในที่เย็นมาก และอาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายเช่นกัน
  
การป้องกันและรักษา
 ใน แง่ของการป้องกัน มีหลายคนสงสัยว่าก่อนตั้งท้องสามารถตรวจคุณพ่อคุณแม่ได้หรือไม่ว่าอาจจะมี ยีนผิดปกตินี้แฝงอยู่ หรือในขณะตั้งครรภ์แล้วสามารถตรวจทารกในครรภ์ได้เหมือนโรคดาวน์ซินโดรมหรือ ไม่

ในปัจจุบันไม่มี วิธีไหนที่จะตรวจสอบได้เลยว่าใครมียีนแฝงที่อาจจะไปผ่าเหล่าในทารก หรือแม้แต่ในขณะตั้งครรภ์แล้วก็ไม่สามารถตรวจสอบได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่มีวิธีการป้องกันโรคนี้ได้เลย และเราจะทราบว่าเด็กมีอาการก็เมื่อคลอดแล้วเท่านั้น สิ่งที่สามารถทำได้หลังจากนั้นคือการรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ

แง่ของการรักษาก็ไม่มีวิธีรักษาใดที่ทำให้โรคนี้หายขาด จึงเป็นการรักษาตามอาการเป็นหลัก คือ มุ่งเน้นให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหนังเพิ่มขึ้นควรใช้ครีมหรือน้ำมันทาผิวซึ่งจะให้ความชุ่มชื้นมากและยาวนาน (ไม่ ควรใช้โลชั่นเพราะมีส่วนผสมเป็นน้ำมากกว่าจึงแห้งหรือระเหยเร็ว) การทาครีมต้องทาแต่พอดี ไม่เหนอะหนะจนเกินไป เพราะครีมอาจจะไปอุดตันทำให้ร่างกายถ่ายเทอากาศความร้อนไม่ดี มีไข้ตลอดเวลา และเพื่อป้องกันไม่ให้หนังแข็งหรือปริ เป็นแผลจนติดเชื้อก็ต้องดูแลรักษาความสะอาดของผิวหนังอยู่เสมอ รวมไปถึงการรับประทานยาในกลุ่มกรดวิตามินเอจะทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้นได้ดี ด้วยเช่นกัน 



คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=30605
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น