วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ป้องกัน...ลูกในครรภ์ขาดอาหาร

ถ้า เป็นสมัยก่อนคุณอาจนั่งทนทำงานต่อไปได้อีก 2-3 ชั่วโมงหลังจากเวลาอาหารปกติแม้จะยังไม่ได้กินอะไร แต่ยามตั้งครรภ์คงทำแบบนั้นไม่ได้แล้วล่ะ บางคนอาจมีทัศนคติที่ว่าไม่ควรกินมากเพราะลูกในท้องจะได้ตัวเล็ก คลอดง่าย แต่จริงๆแล้วการที่แม่รู้จักเลือกกินอาหาร นอกจากจะไม่ทำให้ตัวเองอ้วนเกินไปแล้ว ลูกในท้องยังแข็งแรงสมบูรณ์ด้วย


ใน กรณีที่แม่ขาดอาหาร ลูกในท้องมักจะได้รับผลกระทบอย่างมากค่ะ อันดับแรก คือ มีโอกาสเสี่ยงต่อการแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนดสูง หรือไม่อย่างนั้นทารกที่คลอดออกมา ก็จะมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ และยังทำให้รกมีขนาดเล็กและเติบโตไม่ดีพอ เมื่อรกทำหน้าที่ได้ ไม่ดี โอกาสที่ลูกจะเสียชีวิตในครรภ์ก็สูงขึ้น ยิ่งในช่วงเดือนแรกๆ และช่วงปลายของการตั้งครรภ์ที่สมองและร่างกายของลูกกำลังพัฒนาเต็มที่นั้น หากลูกมีภาวะขาดอาหารก็จะ เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของลูกได้
อะไรบ่งบอกว่า...ลูกในท้องขาดอาหาร ข้อ สังเกตเบื้องต้นของแพทย์ที่จะพิจารณาคือ ขนาดท้องกับอายุครรภ์ว่าสอดคล้องกันหรือไม่ น้ำหนักของแม่ขึ้นดีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือ เปล่า หรือแม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่



ช่วง ที่จะเริ่มสังเกตได้คืออายุครรภ์ประมาณ 28 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งถ้าตรวจพบว่าลูกในท้องของคุณมีความเสี่ยงต่อการขาดอาหาร คุณหมอก็จะให้เพิ่มอาหารประเภทโปรตีน และแนะนำให้คุณแม่นอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น
         

แม่กลุ่มเสี่ยง กับปัญหาโภชนาการ*แม่ที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา
*แม่ที่มีอาการแพ้ท้องรุนแรง ไม่สามารถรับประทานอาหารได้เลย
*แม่ที่มีความเจ็บป่วยเรื้องรัง ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน
*แม่ที่มีครรภ์แฝด
*แม่ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี เพราะร่างกายยังต้องการอาหารสำหรับการเจริญ เติบโตของตัวแม่เองมากกว่าปกติ
*แม่ที่ทำงานหนัก และเครียดมากเกินไป หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
*แม่ที่ก่อนตั้งครรภ์ มีร่างกายและสุขภาพไม่ดีนัก น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ หรือกิน อาหารได้น้อยกว่าปกติ 


 คุณแม่ทั้งหลายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.momypedia.com/knowledge/pregnancy/detail.aspx?no=17137
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.momypedia.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น